ศูนย์รับนมดิบ"ภาคเอกชน"รับความเดือดร้อนหนัก!!คู่สัญญา แก้ MOU ไม่รับน้ำนมดิบ จากวันละ 14 ตันเหลือแค่ตันเดียว

 ศูนย์รับนมดิบ"ภาคเอกชน"รับความเดือดร้อนหนัก!!คู่สัญญาปฏิเสธจัดทำ MOU ร่วมเพื่อซื้อ-ขายนมโค   จากวันละ 14 ตันเหลือแค่ตันเดียว

        วันที่11 ตุลาคม 2568 เวลา 17:00 น สื่อมวลชนลงพื้นที่อำเภอมวกเหล็กพบ นายเรวัต มาถาวร ผู้บริหาร บริษัทมวกเหล็กแดรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด เป็นศูนย์รับนมดิบจากเกษตรกรและสมาชิกในอำเภอมวกเหล็กและอำเภอข้างเคียงจำนวนกว่า 50 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกของศูนย์ฯ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากรับนมจากสมาชิกเกษตรกรเลี้ยงโคนมที่ส่งให้กับศูนย์วันละไม่เกิน 14 ตัน บริษัทคู่สัญญาจำนวน 4 บริษัทมีการยกเลิก MOU เดิมและทำ MOU ใหม่เพื่อรับนมดิบแค่วันละ1ตันทางศูนย์ไม่สามารถสต๊อกนมที่เหลือไว้ได้เนื่องจากว่าสมาชิกนำนมที่รีดส่งทุกวัน และผู้คู่สัญญารับนมดิบเพื่อที่จะไปผลิตน้ำนม โรงเรียนยังไม่ยื่นแผน ทางศูนย์ก็จะปิดรับนมจากสมาชิกหรือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเนื่องจากรับการขาดทุนไม่ไหว

      จึงแจ้งได้เกษตรกรเลี้ยงโคนมในพื้นที่จำนวนกว่า 50 รายทราบปัญหา  เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจึงได้มารวมตัวกันเรียกร้องสื่อฯให้ดำเนินการเสนอข่าวสารเพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเรื่องนมดิบ จะได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรและศูนย์รับน้ำนมดิบจะพออยู่ได้เพราะปัจจุบัน ขายน้ำนมถูกก็ยังไม่มีบริษัทใดซื้อเลย จนกระทั่งเกษตรกรได้"โอดควร" ว่าจะขายวัวนมทิ้ง ซึ่งอาชีพการรีดนมวัวขาย เป็นอาชีพ 1 ที่เป็นอาชีพพระราชทานของในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่างกรมส่งเสริมเกษตรและสหกรณ์ ยังไม่สามารถหาทางออกให้เกษตรกรเลี้ยงโคนมยังไม่ได้เลย

       เนื่องจากทางศูนย์รับนมดิบไม่สามารถสต๊อกนมล้น ต้องนำนมไปเททิ้งสาเหตุเนื่องจากได้มีคู่สัญญา ปฏิเสธจัดทำ MOU ร่วมเพื่อซื้อ-ขายนมโค ทำให้บริษัทรับนมดิบจาก14 ตันให้เหลือแค่ตันเดียวทำให้บริษัท หมวกเหล็ก แดรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด จำเป็นต้องหยุดรับซื้อนมดิบจากเกษตรกร ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ไม่รู้จะเอานมวัวที่รีดทุกวัน 2 เวลาไปขายให้ใครได้เลย

       ส่วนนางสาวจีรวรรณ ขุนภิรมย์ พนักงานฯได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่จะต้องหยุดรับนมดิบจากสมาชิกของกลุ่มเพราะทางบริษัทก็ไม่ได้ทำสัญญากับ อสค. ทำแต่สัญญากับบริษัทรับผลิตนม เช่นผู้รับผลิตนมโรงเรียนยังไม่ส่งแผนทำให้ไม่สามารถที่จะระบายนมดิบออกไปได้ส่วนคู่สัญญาอีก 3 บริษัทรับซื้อลดลง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ให้ศูนย์รับนมดิบต้องรับภาระและขาดทุนและเทนมทิ้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจนถึงปัจจุบันนี้ กว่า 10 วันแล้วต้องเทนมทิ้งเสียหายกว่า 3 แสนบาท

      จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรับผิดชอบช่วยเหลือเกษตรกรและศูนย์รับนมดิบของบริษัทหรือหาหน่วยงานอื่นรับซื้อนมดิบเพื่อเป็นทางออกเพราะปัจจุบันขายราคาต่ำสุดแล้วก็ยังไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้.

        ด้านนายเคมัชคาน ประทาน เกษตรกรเลี้ยงโคนมกล่าวว่าถ้าเป็นเช่นนี้ตนจะต้องขายวัวนมทิ้งแน่นอนจึงขอวอนสื่อมวลชนช่วยเสนอข่าวให้ด้วย.

ภาพข่าวโดยลุงแว่น

เสนอข่าวโดยเพจศูนย์ข่าวแว่นนิวส์ไทม์