"รมช.มนัญญา" กำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม เฝ้าระวังการระบาด "โรคลัมปี -สกิน" อย่างใกล้ชิด "รมช.มนัญญา" ห่วงการแพร่ระบาดโรคลัมปี - สกิน เร่งควบคุมเพื่อไม่ให้ กระทบอุตสาหกรรมโคนมประเทศ ลงพื้นที่มอบยา เวชภัณฑ์ เครื่องพ่นยาและชุด PPE ให้สหกรณ์เขตภาคกลาง 15แห่ง ที่ส่งน้ำนมให้ อ.ส.ค. พร้อมกำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม เฝ้าระวังโรคและให้คำปรึกษาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอย่างใกล้ชิด

 "รมช.มนัญญา" กำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม เฝ้าระวังการระบาด "โรคลัมปี -สกิน" อย่างใกล้ชิด "รมช.มนัญญา" ห่วงการแพร่ระบาดโรคลัมปี - สกิน เร่งควบคุมเพื่อไม่ให้ กระทบอุตสาหกรรมโคนมประเทศ ลงพื้นที่มอบยา เวชภัณฑ์ เครื่องพ่นยาและชุด PPE ให้สหกรณ์เขตภาคกลาง 15แห่ง ที่ส่งน้ำนมให้ อ.ส.ค. พร้อมกำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม เฝ้าระวังโรคและให้คำปรึกษาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอย่างใกล้ชิด


วันนี้ (28 พ.ค. 2564) 



นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นเป็นประธากิจกรรม "โครงการรณรงค์ป้องกันโรคลัมปี-สกิน"(Lumpy Skin Disease) ณ ฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พร้อมมอบสิ่งของเวชภัณฑ์/ยาฆ่าแมลงพร้อมถังฉีดพ่นให้กับสหกรณ์ขตภาคกลาง 15 แห่งที่ส่งน้ำนมให้ อ.ส.ค.จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมฟาร์มเกษตรกร พร้อมชมการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ณ ณัฏฐ์ฟาร์ม ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีนางสาวมนัญญา ทยเศษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าจากสถานการณ์โรคระบาดการติดเชื้อไวร้ส ลัมปี - สกิน (Lumpy skin disease) ที่ยังวิกฤติหนักในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือทั่วประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์อย่างมากและกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนตนในฐานะผู้กำกับดูแลองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)มีความห่วงใยต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบให้กับสหกรณ์ทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันอ.ส.ค.มีสมาชิกส่งน้ำนมดิบให้กับอ.ส.ค.ทั่วประเทศจำนวน 5,952 ราย มีจำนวนโครวม 174,658 ตัวส่งน้ำนมดิบให้อ.ส.ค.ประมาณ 874 ตัน/วัน โดยพื้นที่ภาคกลางมีสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบมากที่สุดคือ จำนวน 15 สหกรณ์ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 2,380 ราย และจำนวนโคนม 65,863ตัวจึงได้สั่งการให้ อ.ส.ค.เฝ้าระวังโรคในพื้นที่พร้อมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดและให้ร้ายงานสถานการณ์มายังตนอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง"ปัจจุบันมีประเทศไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศประมาณ 11,393 ครอบครัว
























จำนวนโคทั้งหมด 427,311 ตัว หากเราไม่เร่งสกัดการแพร่ระบาดในพื้นที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอาจส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศในอนาคตได้โดยฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูงของอ.ส.ค.จะเป็นฟาร์มต้นแบบในการเลี้ยง การผลิตน้ำนมโคและการดูแลสุขภาพโคนม รวมทั้งการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ เพื่อเป็นแบบอย่างให้เกษตรกร หน่วยงานต่างๆได้เข้ามาศึกษา  เรียนรู้การเลี้ยงโคนมมีประสิทธิภาพและนำไปสู่อาชีพอย่างยั่งยืนในอนาคต" รมช.มนัญญา กล่าวด้านนายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า "ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีสหกรณ์และศูนย์วมน้ำนมดิบในเขตพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค.ทุกภูมิภาคจำนวน 52 แห่ง ปริมาณแยกเป็นพื้นที่ภาคกลางจำนวน 15 สหกรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สหกรณ์ ภาคใต้ 8 สหกรณ์ ภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่) 3 สหกรณ์และภาคเหนือตอนล่าง (สุโขทัย) จำนวน 16กรณ์ซึ่งทั้งหมดจะส่งน้ำนมดิบสำหรับป้อนกำลังผลิตผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คเพื่อจำรูปแบบนมพาณิชย์และนมโรงเรียนประมาณวันละ600-800 ตัน/วัน ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค ล้มปี - สกิน ที่ส่งผลกระทบอยู่ในขณะนี้ ทำให้ อ.ส.ค. กำชับเจ้าหน้าที่กวดขันและเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่การเลี้ยงโคนมของอ.ส.ค.อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมนมของประเทศรวมทั้งกระทบต่อธุรกิจอุตสาหกรรมโคนมของ อ.ส.ค. ในอนาคตด้วย"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สระบุรี พบผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน Astre Zeneca เข็มแรกได้2วัน

สระบุรี-นักศึกษาหวิดดับขี่ จยย.กลับจากวิทยาลัยถูกสิบล้อเบียดตกร่องข้างถนนได้รับบาดเจ็บ

ดารูมะซูชิ ขยายสาขาแห่งแรกในหัวเมืองต่างจังหวัดที่ห้างดังสุขอนันต์ปาร์คสระบุรี