ผู้อำนวยการโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกูล พร้อมด้วย รองผู้อำนวยการและ หัวหน้าหมวดกิจการนักเรียน และนายพัฒนพจน์ วิมาโนพิรัฐ ร่วมกันแถลงชี้แจงถึงข้อจริงกรณีมีการแชร์ภาพข้อความและเขียนข้อความต่างๆในเพจชื่อดัง

วันนี้( 26 มิถุนายน 2563 ) นายอิทธิเดช คุลี ผู้อำนวยการโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกูล พร้อมด้วยนายอุดมเกียรติ พรรคเจริญ รองผู้อำนวยการ นายวิเชียร พันธ์ทอง หัวหน้าหมวดกิจการนักเรียน และนายพัฒนพจน์ วิมาโนพิรัฐ

ร่วมกันแถลงชี้แจงถึงข้อจริงกรณีมีการแชร์ภาพข้อความและเขียนข้อความต่างๆในเพจชื่อดังหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องของนายพัฒนพจน์ วิมาโนพิรัฐ ที่มีการใช้ข้อความลักษณะไม่เหมาะสมเชิงชูสาว และได้ยอมรับว่าภาพข้อความดังกล่าวเป็นของตนเองจริงแต่ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งจำไม่ได้ว่าพูดคุยกับใคร โดยยกมือไหว้ขอโทษสังคม ขอโทษโรงเรียนที่ทำให้เสียชื่อเสียง และยอมรับผิด

โดยเรื่องนี้นายอิทธิเดช คุลี ผู้อำนวยการโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกูล มีการเปิดเผยว่า สาเหตุที่มาที่ไปของเรื่องการโจมตีและขุดคุ้ยเรื่องอาจารย์พัฒนพจน์ฯ นั้น ก่อนหน้านี้มันมีประเด็นเรื่องมีบุคคลอื่นกล่าวหาโจมตีโรงเรียนให้เสื่อมเสียชื่อเสียง สร้างความเสียหายต่อโรงเรียนในทวิตเตอร์  โดยเฉพาะล่าสุดมีการแสดงความคิดเห็นระเบียบปฏิบัติเรื่องทรงผมนักเรียนออกมา  ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาและครูที่รับผิดชอบได้มีการถกเถียงเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และให้ปฏิบัติตามคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการที่ให้เด็กสามารถไว้ผมได้ แต่ต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่เรื่องไม่จบ ยังมีการขุดคุ้ยอดีตที่ผ่านมา ความเข้มงวดของโรงเรียน เรื่องระเบียบวินัย เรื่องโรงอาหาร เรื่องอาหารไม่อร่อย จนเรื่องบานปลาย ทั้งที่หลายคนนั้นเป็นศิษย์เก่าจบไปนานแล้วบางคนไม่ใช่ศิษย์เก่าแต่เป็นคนอื่นก็มาร่วมแสดงความคิดเห็นผสมลงด้วย จึงเกิดผลขยายออกไปในเพจและfacebook ต่างๆ
ซึ่งต่อมานายพัฒนพจน์ฯได้เห็นข้อความดังกล่าวจึงนำมาโพสต์ลงในกลุ่มไลน์สื่อสารองค์กร ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีแต่ผู้บริหาร ครุและเจ้าหน้าที่อยุ่ในไลน์กลุ่มนี้เท่านั้น   โดยนายพัฒนพจน์ฯได้เขียนเชิงต่อว่า ว่า ทำไมไม่รักองค์กรอยากให้ทุกคนฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปด้วยกัน แม้จะมีเรื่องราวส่งผลความหวั่นไหวชั่วครั้งชั่วคราวต่อโรงเรียนก็ผ่านไปได้ด้วยดี และอยากให้ทุกคนมีสติรอบคอบหาก โรงเรียนแย่จริงดังข้อกล่าวหาคงไม่เจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะทุกคนรักโรงเรียนและองค์กร เพราะที่นี่คือบ้านของเราคงไม่มีใครกล้าทุบหม้อข้าวตัวเอง หรือทำร้ายจิตใจอารมณ์ของหลวงพ่อใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อตั้งโรงเรียน ทุกคนอยู่ด้วยกันแบบพี่น้อง ทำงานด้วยกัน สำหรับคนที่กล่าวหาคือใคร เขาไม่เคยทำอะไรเพื่อความเจริญของโรงเรียน การกล่าวหาคนอื่นให้เสียหายทำได้ง่ายยิ่งผ่านสื่อจะสะใจมาก ทุกคนรู้ตัวดี แต่มีบางคนไม่พยายามเข้าใจสร้างความเท็จในองค์กร ให้มีความเสื่อมเสียหาย แต่ตอนนี้ไม่เปิดเผยตัวบิดเบือนข้อมูลนอกจากจะไม่ทำอะไรให้โรงเรียนแล้วยังทำลายชื่อเสียงอีกด้วย  คุณว่าคนอื่นไม่ดีคุณดีพอแล้วหรือ แค่นี้ก็เห็นธาตุแท้แล้วว่า ไม่ทำแถมยังด่าด่าด่าด่า ให้คนอื่นเสียหาย คนเหล่านี้เป็นพวก” เดรัจฉานชน”ครับ มีกรรมมาแต่กำเนิด มองแต่คนอื่นไม่ดีแล้วคุณดีแค่ไหน ผมอยากรู้จักคุณครับ
ผู้อำนวยการโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกุล ยังได้กล่าวอีกว่า จากข้อความที่นายพัฒนพจน์ วิมาโนพิรัฐ เขียนจึงอาจจะทำให้มีคนไม่พอใจ และนำไปขยายผลเผยแพร่สู่การลงในทวิตเตอร์ กล่าวหาว่านายพัฒนพจน์ฯด่านักเรียนว่าเป็น ”เดรัจฉาน”  และหันมาขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว ซึ่งก่อนหน้านี้นายพัฒนพจน์ฯเคยได้แค็ปภาพข้อความมาให้ตนได้ดูแล้ว   แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องบานปลายนำไปสู่การโจมตีในวันนี้
ขณะที่นายพัฒนพจน์ วิมาโนพิรัฐ ได้กล่าวว่า ตนเองขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง ที่กล่าวหาว่าตนเองด่านักเรียน ในประโยคหนึ่งที่เป็นคำแรง แต่ตนเองหมายถึงคนที่ไม่เคยทำอะไรให้โรงเรียนคิดแต่เรื่องต่ำๆมองแต่คนอื่นไม่ดีและทำลายโรงเรียนของตัวเอง องค์กรของตนเอง ซึ่งกว่าโรงเรียนจะมาถึงจุดนี้ได้ใช้เวลาในการพัฒนากว่า 70 ปี ก็เห็นแล้วว่าหากโรงเรียนไม่ดีจริงคงไม่พัฒนาก้าวขึ้นมาอยู่เป็นโรงเรียนมัธยมอันดับต้นๆของจังหวัดสระบุรีได้ด้วยทั้งความรักสามัคคีความมุ่งมั่นผู้บริหารและครูทุกคน
 ส่วนเรื่องที่มีการแค็ปภาพข้อความแชทมาลงในสื่อสังคมออนไลน์ทางเพจดังเพจหนึ่งนั้น นายพัฒนพจน์ ยอมรับผิดและยอมรับว่าเป็นของตนเองจริง แต่ไม่ได้คิดอะไร ตนเองเป็นคนชอบเล่นชอบสนุกคุยสนุกสนาน นักเรียนทั้งชายและหญิง รวมทั้งเพื่อนครู ส่วนใหญ่จะพูดเล่นกับตัวเองเป็นประจำและมักจะเรียกว่าพี่พจน์   สำหรับข้อความดังกล่าวเป็นข้อความเก่าผ่านมา 2 ปีซึ่งตนเองก็จำไม่ได้ว่าได้มีการแชทพูดคุยกับใคร แต่ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้  ตนเองยอมรับผิดที่แชทข้อความไม่เหมาะสม ต้องขอโทษทุกคน ขอโทษสังคม   ขอโทษที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อโรงเรียนด้วยความไม่สบายใจต่อเพื่อนครูและผู้บริหารโรงเรียน
ส่วนเรื่องที่กล่าวหา ว่า ตนเองมีการลวนลาม มีพฤติกรรมไม่ดีต่อเด็กนักเรียนหญิง มีการร้องเรียนตนเองต่อผู้บริหารที่ผ่านมานั้น ก็ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงเช่นกัน ตนเองรับราชการมาไม่เคยถูกร้องเรียน  รวมทั้งเรื่องของการที่เป็นผู้ที่มีบารมีหาเงินประมาณพัฒนาโรงเรียนซึ่งตนเองทำงานกับผู้บริหารและเพื่อนครู เป็นเพียงแค่ผู้ประสานหนังสือและติดต่อประสานงาน ติดตามงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเท่านั้น แต่ก็มีคนนำเรื่องนี้ไปผูกโยงเรื่อง คนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงก็เกิดความเกลียดชังเข้าใจผิด  ขณะเดียวกันตนเองยอมผลลัพธ์ผลการสอบสวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตส่วนใดไม่ใช่เรื่องจริงตนเองจะขอรักษาสิทธิ์ตัวเองด้วยการแจ้งความดำเนินการแจ้งความกับผู้ที่นำข้อความเป็นเท็จ กล่าวหาข้อความใส่ร้ายป้ายสี นำข้อความเป็นเท็จลงคอมพิวเตอร์
โดยก่อนจบการสัมภาษณ์นายพัฒนพจน์ฯมีน้ำเสียงที่สั่นเครือ น้ำตาคลอ และกล่าวขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมที่จะรับผลการสอบสวนทั้งหมดและยอมรับผิดกับสังคม และขอให้คนที่กำลังด่าโจมตีครูหรือโรงเรียนเสาไห้ฯหรือผู้บริหารโรงเรียนนั้น ให้หยุดหรือการแสดงความคิดเห็นที่ปราศจากข้อเท็จจริง จะด้วยอารมณ์หรือความคิดเห็นส่วนตัวก็ตาม ซึ่งจะไม่เกิดผลดีกับโรงเรียนที่เราเคยศึกษาอยู่ ทั้งศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า ส่วนเรื่องของตนนั้นให้เป็นไปตามข้อกฎหมายผลการสอบสวน จากนั้นนายพัฒนพจน์ฯได้ยกมือไหว้ขอโทษอีกครั้งหนึ่ง
ผู้อำนวยการโรงเรียนเสาไห้วิมลวิทยานุกูล  ได้กล่าวว่า ตนเองได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยให้นายอุดมเกียรติ พรรคเจริญ รองผู้อำนวยการฯ เป็นประธาน ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวมีความเป็นความจริงเรื่องข้อมูลแชทข้อความของอาจารย์ธนพจน์ก็จะมีการลงโทษตามลำดับ 5 ขั้น คือ 1 ตั้งแต่เริ่มต้นภาคทัณฑ์ 2 ตัดเงินเดือน ไปจนถึงไล่ออกซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย  แต่ดูขณะนี้เป็นเพียงเรื่องของพฤติกรรมคุณธรรมจริยธรรมของข้าราชการครู  ซึ่งเบื้องต้นขณะนี้นายพัฒนพจน์ได้ชี้แจงเบื้องต้อนต่อตนเอง แล้ว และที่ผ่านมานายพัฒนพจน์ ก็ตั้งใจทำงานดีสามารถประสานงานได้หลายส่วนและไม่ใช่เป็นผู้ที่มีอิทธิพลผู้ที่มีบารมีต่อโรงเรียนแต่อย่างใด
หลังจากมีการชี้แจงเสร็จแล้วนายพัฒนพจน์ฯ ก็ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเสาไห้ เพื่อลงบันทึกแจ้งความกับผู้ที่ลงข้อความอันเป็นเท็จ แสดงความคิดเห็นที่ปราศจากความจริงและอคติ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความเกลียดชังต่อตนเอง นำข้อมูลเท็จลงคอมพิวเตอร์ตอนนี้ โดยนายพัฒนพจน์  กล่าวว่าที่มาลงบันทึกและแจ้งความนั้นก็เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาสิทธิ์ของตัวเองเท่านั้น โดยมีพันตำรวจโท ศุภกฤติ  แก้วบาง สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเสาไห้ เป็นผู้รับแจ้งความ ในเบื้องต้นจะได้มีการสืบค้นข้อมูลเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ ดูในรายละเอียดว่าจะเข้าข่ายดำเนินคดีอะไรบ้าง ถ้าหากมีข้อมูลเป็นจริง
ขณะเดียวกันศิษย์เก่าหลายคนที่เดินทางมาให้กำลังใจนายพัฒนพจน์ฯ ก็กล่าว โดยส่วนตัวแล้วตนเองเห็นว่าอาจารย์เป็นคนที่ชอบพูดเล่น เป็นกันเอง ทีเล่นทีจริงกับนักเรียนทุกคนทั้งชายและหญิง  รวมทั้งการหยอกล้อจับหัวถูกตัวบ้าง  ซึ่งก็ไม่ได้เกิดความเสียหาย  ส่วนเรื่องข้อความแชทนั้นก็เป็นไปตามที่อาจารย์พัฒนพจน์ฯได้อธิบาย  อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการกล่าวโจมตีครูและโรงเรียนจนเสียหายและเสียชื่อเสียงตรงตนเองมองว่าอาจจะไม่เป็นธรรม จึงอยากให้ทุกคนได้ดูข้อเท็จจริง หรือการแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากอคติและความเกลียดชัง